สิวหัวช้าง (Nodulocystic acne หรือ Severe Nodular acne) ดูจากชื่อแล้วอาจรู้สึกว่าเป็นสิวที่น่ากลัว โดยลักษณะของสิวหัวช้างเป็นสิวที่มีขนาดนูนใหญ่ เห็นได้ชัด เมื่อสัมผัสอาจรู้สึกได้ว่าเป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ อาจรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส อาจเป็นสิวที่มีหัวหรือไม่มีหัวก็ได้
สิวหัวช้าง เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่งที่อยู่ในการอักเสบระดับรุนแรง มีลักษณะก้อนตุ่มนูนแดง แข็ง ขนาดใหญ่ ภายในของสิวหัวช้างเป็นหนองปนกับเลือด แม้สิวประเภทนี้จะมีลักษณะแข็งคล้ายกับสิวเป็นไต แต่ไม่ใช่สิวแบบเดียวกัน เพราะสิวเป็นไตเป็นสิวอุดตัน เม็ดแข็งนูน เป็นสิวจำพวกสิวไม่มีหัว มักไม่มีการอักเสบรุนแรงเหมือนกับสิวหัวช้าง
สิวหัวช้าง เกิดจากอะไร
สิวหัวช้างเกิดได้จากหลายสาเหตุ
1. เชื้อแบคทีเรีย C.acne (เชื้อแบคทีเรียชนิดเดียว กับที่ก่อให้เกิดสิว ชนิด acne vulgaris)
สิวหัวช้างสามารถเกิดได้จากเชื้อแบคทีเรียที่โตบนผิวหนัง เรียกว่าแบคทีเรีย C.ance ซึ่งร่างกายตอบสนองกับเชื้อดังกล่าวด้วยการเกิดการอักเสบ โดยช่วงแรกสิวประเภทดังกล่าวจะดูเหมือนเม็ดสิวทั่วไป แต่ในระยะยาวจะเริ่มเห็นการอักเสบที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง เริ่มจากการเกิดสารคล้ายหนอง ลักษณะสิวจะเหมือนฝี เมื่อหนองแตกอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
2. ใช้มือลูบหรือสัมผัสหน้าบ่อยๆ
การสัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ นอกจากจะทำให้อาการอักเสบใต้ผิวหนักกว่าเดิมแล้วอาจทำให้กลุ่มสิวในบริเวณใกล้เคียงเกิดการลุกลามไปในบริเวณกว้าง เช่น สิวหัวดำที่มักเกิดเป็นกลุ่มอยู่กับสิวหัวช้าง
3. ใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสำหรับผิวเป็นสิว
การใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับผิวเป็นสิว เช่น เครื่องสำอางที่มีซิลิโคนเป็นส่วนประกอบ ก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่าย ผิวอาจเกิดการอุดตันและอักเสบมากกว่าเดิม รักษาให้หายได้ยาก
ถึงแม้ว่าช่วงเย็นจะล้างหน้าด้วยความระมัดระวังแล้วก็อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองในช่วงระหว่างวันได้ หรือหากเลี่ยงเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับผิวเป็นสิวไม่ได้ ก็ควรเลือกวิธีการทำความสะอาดผิวที่สามารถล้างรูขุมขนได้อย่างล้ำลึกแต่คงความอ่อนโยนไว้เช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นอาจจะสามารถเกิดสิวอื่น ๆ ร่วมกับสิวหัวช้างได้ เช่น สิวผด เป็นต้น
4. นอนดึก
การนอนดึก หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายไม่ได้รับการซ่อมแซมหรือการฟื้นฟูที่ควร และยังส่งผลต่อกระบวนการการทำงานในร่างกายด้วย การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอมักทำให้ผิวเครียด ผิวแห้ง เพิ่มโอกาสการเกิดสิวและรอยสิวอีกด้วย
5. ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป (Sebum production)
มักจะพบในช่วงวัยรุ่นที่ระดับฮอร์โมนยังไม่เสถียร จึงส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากหรือน้อยกว่าปกติ หากผลิตน้ำมันมากเกินไปจะทำให้ผิวหน้ามันและเกิดการอุดตันเป็น สิวเสี้ยน หรือสิวอุดตันได้ ซึ่งหากทิ้งไว้นานก็จะเกิดเป็นสิวหัวช้างได้ง่ายเช่นเดียวกัน
6. การอักเสบ และการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน (Inflammation and immune response)
การอักเสบแบบนี้เกิดจาก การที่เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานตามหน้าที่ระบบภูมิคุ้มกันเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในชั้นผิว และเกิดเป็นการอักเสบจนนำมาสู่การเป็นสิวอักเสบในที่สุด และหากลุกลามไปเรื่อย ๆ อาจจะการเป็นสิวหัวช้างไม่มีหัว หรือสิวหัวช้างใหญ่มาก ๆ ได้
บริเวณที่มักเกิดสิวหัวช้าง
บริเวณที่มักจะพบสิวหัวช้าง คือ
- สิวหัวช้างที่คาง เนื่องจากมักจะเป็นบริเวณที่สัมผัสกับมือที่สกปรกของเรามากที่สุด เพราะหลาย ๆ คนอาจจะชอบเท้าคาง หรือติดจับคางเป็นประจำ นอกจากนี้การใส่แมสก์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวบริเวณนั้นได้รับการเสียดสีจนเกิดเป็นสิวได้
- สิวหัวช้างที่จมูก จมูกก็เป็นบริเวณยอดฮิตอีกบริเวณหนึ่งที่สิวมักจะปรากฏขึ้น เพราะบริเวณนี้เป็นหนึ่งในบริเวณของทีโซนที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกินมาก
- สิวหัวช้างที่หลัง นอกจากใบหน้าแล้ว บริเวณลำตัวอย่างหลังก็สามารถเกิดสิวได้เช่นกัน เพราะหลังเป็นส่วนหนึ่งที่เหงื่อออกมาก และอับชื้นจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ และได้รับการเสียดสีเป็นประจำจากเนื้อผ้าทำให้เกิดสิวที่หลัง
วิธีการรักษาสิวหัวช้าง ให้ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้
1. การใช้ยาทาเฉพาะที่
การรักษาสิวหัวช้างด้วยการใช้ยาเฉพาะที่ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเพราะยารักษาสิวสำหรับการใช้งานเฉพาะที่มักเป็นยาที่มีความรุนแรงต่อผิว อาจเป็นการทำร้ายผิวให้เกิดผิวแห้ง ผิวลอก และเกิดเป็นรอยสิวได้ในภายหลัง เช่น
- ยา Isotretinoin เป็นกลุ่มเรตินอยด์ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นสิวและอาการอักเสบใต้ผิวหนังให้ดันตัวออกมา และยาตัวดังกล่าวใช้เวลารักษาที่ค่อนข้างนานแต่เป็นยาที่ใช้รักษาสิวหัวช้างโดยทั่วไป ระยะเวลาการรักษาอยู่ที่ 20-28 สัปดาห์หรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ผลข้างเคียงคือผิวจะมีความไวต่อแสงมากกว่าปกติ ผู้ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาประเภทนี้
- วิธีรักษาสิวหัวช้างด้วยยาทากลุ่ม Salicylic Acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ฆ่าเชื้อโรค และช่วยละลายสิ่งอุดตันตามรูขุมขนจึงเป็นยารักษาสิวหัวช้างได้อีกตัวหนึ่ง
- ยาแต้มสิวหัวช้างชนิดกลุ่มยา Benzoyl Peroxide เป็นยาทาสำหรับรักษาสิวหัวช้างอักเสบชนิดต่าง ๆ เพราะมีฤทธิ์ต้านเชื้อแแบคทีเรีย ขจัดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า
- นอกจากสิวหัวช้างรักษาได้ด้วยการใช้ยาทาสิวหัวช้างแล้ว แพทย์อาจแนะนำการรับประทานยาสเตียรอยด์ ยาปฏิชีวนะ หากการอักเสบเข้าขั้นรุนแรงหรือการรักษาด้วยยาทาไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร
2. เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์
เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์หรือการฉายรังสีที่มีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร เป็นการปล่อยลำแสงเลเซอร์ที่มีพลังงานความร้อนสูง สามารถตัดเนื้อเยื่อได้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการรักษาสิวหัวช้างที่มีความรุนแรงมาก แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่า และมีผลข้างเคียงทำให้ผิวมีความไวต่อแสงด้วย
3. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง แพทย์ผิวหนังจะช่วยตรวจสอบสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงประเภทของสิว และหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดได้ แม้จะเป็นสิวหัวช้างเรื้อรัง แพทย์ผิวหนังก็สามารถให้คำแนะนำในการรักษาสิวหัวช้างได้ ดีกว่ากดสิวหัวช้างด้วยตนเอง จนอาจจะเกิดแผลสิวตามมาเป็นปัญหาสิวตามมาที่หลังได้
4. การฉีด corticosteroids เข้าที่สิวโดยตรง (Intralesional Injection of corticosteroids)
การฉีดยากลุ่มสเตียรอยด์นี้ช่วยทำสิวหัวช้างที่ไม่ยุบ สิวหัวช้างไม่มีหัวรักษาได้ ยุบตัวลงได้ ถึงแม้จะเป็นวิธีแก้สิวหัวช้าง ที่รวดเร็ว แต่หากไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผิวหนังที่ได้รับการฉีดยา อาจจะช้ำ หรือหากได้รับยามากเกินขนาด อาจทำให้ผิวเป็นรอยบุ๋มลงไปได้
10 คลินิกรักษาสิวหัวช้างกวนใจ
1. The Ritz Clinic
THE RITZ CLINIC คลินิกความงามที่เริ่มต้นจากจิตวิญญาษณความของ “หมอริท” ที่มุ่งหวังให้ผู้ที่สนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องหน้าตารูปร่างของตัวเอง ได้รับบริการด้านความงามที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ หมอริทจึงทุ่มเทใส่ใจและให้ความสำคัญทุกรายละเอียดที่อยู่ภายในคลินิกเสริมความงามแห่งนี้ โดยใส่ใจพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกผลิตภัณฑ์ยา การเลือกผลิตภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่จะต้องได้รับมาตรฐานที่เป็นสากลและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในหมู่แพทย์ผิวหนังและความงามชั้นนำทั่วโลกเท่านั้น
ไปจนถึงกระทั่งถึงการฝึกอบรมคัดกรองพยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนให้มีความรู้ความสามารถในการให้บริการ และการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการทุกคน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่สนใจในเรื่องหน้าตาและรูปร่างของตัวเอง และเพื่อความมั่นใจของผู้เข้ามาใช้บริการทุกคน THE RITZ CLINIC จึงให้ความสำคัญและคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: The Ritz Clinic
- เฟซบุ๊ก: THE RITZ
- เบอร์โทร: 088-892-2666
2. M Vita Clinic
M Vita Clinic เป็นคลินิกที่ให้บริการ ดูแลรักษาปัญหาด้านผิวพรรณ ความงาม ศัลยกรรมตกแต่งครบวงจร ที่เปิดให้บริการมายาวนาน ตั้งแต่ปี 2553 ด้วยนวัตกรรมเครื่องมือเลเซอร์และเวชสำอาง คุณภาพระดับมาตรฐานสากล หลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Ulthera, Dual yellow, Fotona SP Spectro, Spectra XT, Fractora, Forma, Bodytite, Pristine, Infusion, Cellec, Allergan Botox, Neuronox, Xeomin, Juvederm, Restylane, Neuramis, Belotero, Obagi, PCA skin และอื่นๆ ที่คัดสรรมา เพื่อการันตีผลการรักษาที่เห็นผลจริงอย่างชัดเจน และยังมีการรับรองคุณภาพการรักษา ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้การให้บริการที่เป็นกันเอง อบอุ่น เหมือนเป็นบ้านหลังที่สองของท่าน และด้วยราคาที่เอื้อมถึงได้ ไม่แพงจนเกินไป
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: M Vita Clinic
- เฟซบุ๊ก: M Vita Clinic
- เบอร์โทร: 081-492-2626
3. SLC Clinic
SLC สยามเลเซอร์ ให้บริการเสริมความงาม ไม่ว่าจะเป็น ฉีดฟิลเลอร์ เลเซอร์ มาตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี ด้วยความชำนาญจากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ ทั้งทางด้าน ผิวพรรณ SLC ยินดีให้คำปรึกษาปัญหาความงามทั่วเรือนร่าง
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: https://www.slcclinic.com/
- เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/SLCclinic
- เบอร์โทร: 02-714-9555
4. Romrawin Clinic
รมย์รวินท์ คลินิก คลินิกหัตถการความงามครบวงจร ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาสิว ทำเลเซอร์ ฉีดโบ ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดหน้าใส ปรับรูปหน้า ยกกระชับ เลเซอร์กำจัดขน ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กว่า 20 ปีของการบริการด้วยคุณภาพและความใส่ใจ รมย์รวินท์คลินิก เติบโตขยายสาขากว่า 26 สาขาที่ครอบคลุม หัวใจหลักในการให้บริการของเรายัง ประกอบด้วย แพทย์มากประสบการณ์, ครบเครื่องเรื่องงานผิว, วิเคราะห์ปัญหาผิวตรงจุด
รมย์รวินท์คลินิก คลินิกเสริมความงามที่ไห้คุณได้รับความสะดวกสะบายที่มากกว่า กับรมย์รวินท์ทั้ง 26 สาขา เดินทางสะดวกและให้บริการได้อย่างทั่วถึง มีที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: Romrawin Clinic
- เฟซบุ๊ก: Romrawin Clinic
- เบอร์โทร: 080-1539000 และ 080-1549000
5. MDI Clinic
ดร. แพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา แพทย์หญิงชำนาญการณ์ด้านเลเซอร์ โรคมะเร็งผิวหนัง และการแพทย์ผสมผสานชะลอวัยยาวนานกว่า 25 ปี เป็นผู้นำสถานบริการด้านการแพทย์สุขภาพและความงามมาตรฐานระดับสูง ซึ่งคุณลักษณะที่พึงมีของหน่วยงานประกอบด้วยบริการด้วยใจ, สะดวกรวดเร็ว, ทัศนคติที่ดี, รับผิดชอบต่อหน้าที่, มีวุฒิภาวะในการรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ, มีความซื่อสัตย์ สุจริต
ปรัชญาของเรา คือการแสวงหาความงามอันเป็นนิรันดร์ โดยไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังชะลอกระบวนการแก่ของร่างกาย บรรเทาความเจ็บป่วย และพัฒนาคุณภาพชีวิตอีกด้วย เราออกแบบโปรแกรมและให้บริการแบบองค์รวม มุ่งเน้นที่การรักษาที่ต้นเหตุจากภายในเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาภายนอก เป้าหมายของเราไม่เพียงแต่เนรมิตความงามภายนอกเท่านั้น แต่เรายังให้ความสำคัญกับจิตใจของคนไข้ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: Medisci Clinic
- เฟซบุ๊ก: Medisci Clinic
- เบอร์โทร: 098-900-6100
6. DRC Clinic
ที่หมอปอนด์สร้าง DRC Clinic ขึ้นมาเพื่อที่จะสามารถดูแลคนไข้ได้ด้วยตัวเอง อยากจะดูแลคนไข้แบบครบวงจร ตั้งแต่คนไข้มาถึง ให้การบริการที่เหมือนกับครอบครัว เพื่อให้ผู้ที่มาใช้บริการไว้ใจและวางใจเมื่อมาใช้บริการของเราผลลัพธ์ที่ได้ทุกคนจะต้องพอใจ โดยหลักของ DRC Clinic จะเน้นเรื่องของความเป็นกันเอง การอธิบายให้เข้าใจง่าย ให้เวลาในการปรึกษาและพูดคุยกับผู้มาใช้บริการ ใช้ตัวยาที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน ได้ผลลัพธ์ตามที่คุยกันไว้ตามที่ผู้มาใช้บริการคาดหวังได้ มีการบริกรที่ประทับใจเหมือนคนในครอบครัว มีการติดตามผลลัพธ์แนะนำวิธีการดูแลอย่างใกล้ชิด
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: DRC Clinic
- เฟซบุ๊ก: Mornoopond – ภาษาหมอที่คุยกันแบบเพื่อน หมอหนูปอนด์
- เบอร์โทร: 064-619-3615
7. Medisci Clinic
ดร. แพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา แพทย์หญิงชำนาญการณ์ด้านเลเซอร์ โรคมะเร็งผิวหนัง และการแพทย์ผสมผสานชะลอวัยยาวนานกว่า 25 ปี เป็นผู้นำสถานบริการด้านการแพทย์สุขภาพและความงามมาตรฐานระดับสูง ซึ่งคุณลักษณะที่พึงมีของหน่วยงานประกอบด้วยบริการด้วยใจ, สะดวกรวดเร็ว, ทัศนคติที่ดี, รับผิดชอบต่อหน้าที่, มีวุฒิภาวะในการรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ, มีความซื่อสัตย์ สุจริต
ปรัชญาของเรา คือการแสวงหาความงามอันเป็นนิรันดร์ โดยไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังชะลอกระบวนการแก่ของร่างกาย บรรเทาความเจ็บป่วย และพัฒนาคุณภาพชีวิตอีกด้วย เราออกแบบโปรแกรมและให้บริการแบบองค์รวม มุ่งเน้นที่การรักษาที่ต้นเหตุจากภายในเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาภายนอก เป้าหมายของเราไม่เพียงแต่เนรมิตความงามภายนอกเท่านั้น แต่เรายังให้ความสำคัญกับจิตใจของคนไข้ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: Medisci Clinic
- เฟซบุ๊ก: Medisci Clinic
- เบอร์โทร: 098-900-6100
8. DSK Clinic
DSK คลินิกความงามและผิวหนังชั้นนำของประเทศ มุ่งเน้นคุณภาพและความปลอดภัยในการรักษาผิวหนัง ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และความสามารถเฉพาะด้านในการวิเคราะห์ปัญหาเฉพาะบุคคลและวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด พร้อมเครื่องมือและเลเซอร์ชั้นนำมาตรฐานระดับโลก USFDA ทัดเทียมในระดับ World-Class Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดในวงการแพทย์
DSK Clinic เชื่อว่าความสวยงามเป็นเรื่อง “เฉพาะบุคคล” ดังนั้นเราจึงตั้งใจมอบบริการที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งด้านเทคนิค และด้านความงาม พร้อมนำพาคุณไปยังเป้าหมายของการรักษา ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีด้านความงามที่ทันสมัยที่สุด และการบริการที่พร้อมปรับแต่งให้เข้ากับคุณมากที่สุด สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างจากคลินิกความงามทั่วไป ให้คุณได้เป็นตัวคุณในแบบที่ดีที่สุด ที่ DSK Clinic
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: DSK Clinic
- เฟซบุ๊ก: DSK Clinic
- เบอร์โทร: 081-141-9255
9. Dr. Orawan Holistic & Anti-Aging Institute
ก่อตั้งขึ้นโดยดร. อรวรรณ กิจเชวงกุล ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 40 ปี คลินิกของเราเน้นการดูแลสุขภาพและความงามเฉพาะบุคคล ดร.อรวรรณจะให้เวลาที่จะเรียนรู้ความต้องการและสร้างแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณโดยเฉพาะ คลินิกตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ในโรงแรมชาเทรียม แกรนด์ (ติดกับสยามพารากอน)
ที่ Dr. Orawan Medical Wellness เราให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของคุณเหนือทุกสิ่ง ตั้งแต่การรักษาที่ปรับให้เหมาะกับคุณจนถึงบริการที่ยอดเยี่ยม เราออกแบบการรักษาโดยคำนึงถึงความต้องการของคนไข้เป็นหลัก เป้าหมายของคุณคือเป้าหมายของเรา และความพึงพอใจของคุณคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของเรา
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: Dr. ORAWAN
- เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/drorawanholistic/
- เบอร์โทร: 06-1656-2395
10. BSL Clinic
อนันต์คลินิกได้พัฒนาตลอดระยะเวลา 30 ปี เพื่อการดูแลและรักษาคนไข้เพื่อให้คนไข้ได้ผิวสวย รูปหน้าและรูปร่างที่ได้สัดส่วน ตั้งแต่ปี 2528 ได้มีการพัฒนาร่วมกับพญ.วิภาณี อัครภูษิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่จบการศึกษาจากอเมริกาและนพ.วุฒินันท์ สิทธิผลวนิชกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่จบการศึกษาจากอังกฤษ ในการดูแลผิว การออกแบบรูปหน้าและสัดส่วน เพื่อก้าวสู่สากลและรองรับการเป็นสมาคมอาเซียนจึงเปลี่ยนเป็น บีเอสแอล คลินิกหรือ บางกอก สกิน แอนด์ เลเซอร์ คลินิก (Bangkok skin and laser clinic)
แนวทางในการรักษาของ BSL Clinic จากนพ. อนันต์ สิทธิผลวนิชกุล หมอดูแลผิวพรรณมานาน 30 ปี ได้ไปศึกษาต่างประเทศ อเมริกา ญี่ปุ่น ยุโรป เพื่อมาพัฒนาเทคโนโลยีเลเซอร์และผลิตภัณฑ์ แต่ละปีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทั้งด้านวัตถุดิบเครื่องสำอางและเลเซอร์ จนมาถึงปัจจุบันสุดยอดของการรักษาโรคที่ไม่หายด้วยยาเราสามารถใช้เลเซอร์ให้หายได้หรือดีขึ้น
ช่องทางการติดต่อ
- เว็บไซต์: BSL Clinic
- เฟซบุ๊ก: BSL Clinic
- เบอร์โทร: 099-343-8666